
7 มิ.ย. 2567
นายกฯ ย้ำประเทศไทยมีวิกฤตเศรษฐกิจที่จำเป็นต้องกู้ ยันไม่มีอคติน้อมรับทุกความเห็นต่าง เผยเดินหน้าต่อเตรียมแถลงใหญ่มาตรการแก้ปัญหาหนี้ทั้งระบบ สิ้นเดือน พ.ย.นี้
วันนี้ (15 พฤศจิกายน 2566) นายเศรษฐาทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ เวลา 16.00 น. ของวันที่ 14 พ.ย. (ตามเวลาท้องถิ่นนครซานฟรานซิสโก ซึ่งช้ากว่าเวลาที่กรุงเทพฯ 15 ชั่วโมง) กรณีพรรคเพื่อไทยจะเตรียมแผนสำรองหาก พ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท ไม่ผ่านการตีความจากคณะกรรมการกฤษฎีกา ว่า ไม่เฉพาะพรรคเพื่อไทยอย่างเดียวที่กังวล แต่ประชาชนที่อยู่ต่างจังหวัด ที่ประสบปัญหาสะสมมาโดยตลอดในเรื่องของจีดีพีที่ไม่เติบโตมานาน ทุกคนมีความเป็นห่วงว่านโยบายนี้จะเป็นอย่างไร ซึ่งตนเคยพูดไปแล้วว่าประเทศไทยอยู่ในสภาพเศรษฐกิจวิกฤตและมีความจำเป็นที่จะต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยนโยบายดิจิทัล วอลเล็ต ถือเป็นนโยบายสำคัญที่เราจะผลักดันให้เกิดขึ้น และมั่นใจว่าจะมีการผลักดันให้เกิดขึ้น
สำหรับกรณีที่นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล แสดงความเห็นว่าไม่ขัดขวางนโยบายแจกเงินดิจิทัล แต่หากรัฐบาลเดินหน้าต่อควรมีแผนเตรียม นายกฯ กล่าวว่า ไม่อยากจะบอกว่ามีแผนสำรองอย่างไร แต่เราทำงานโดยมีหลายมาตรการที่กระตุ้นเศรษฐกิจออกมา วันนี้โฟกัสเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต และที่ผ่านมารัฐบาลแสดงจุดยืนชัดเจนที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ และมีขั้นตอนชัดเจน อีกทั้งต้องคอยฟังทางคณะกรรมการกฤษฎีกา และขออนุมัติจากรัฐสภา ที่ชัดเจนออกมาด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคก้าวไกล หวังว่าความเห็นที่พรรคได้สะท้อนออกมา ที่มีหลายเรื่องเห็นต่างอยากให้รัฐบาลมองอย่างไม่มีอคติ นายกฯ กล่าวว่า ไม่มีอคติอยู่แล้ว ยืนยันว่าน้อมรับทุกคำแนะนำ หากเกิดอะไรขึ้น เราแก้ไขปรับปรุงได้ และเชื่อมั่นว่านโยบายดิจิทัล วอลเล็ต มีความชัดเจนในการรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย ต้องขอบคุณความเห็นดีจากพรรคก้าวไกล
นายกฯ ยังกล่าวกรณีที่ประชุมคณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อย เห็นชอบแนวทางแก้ปัญหาหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ซึ่งจะคำนวณภาระหนี้ของลูกหนี้ที่ยังชำระไม่หมดให้กลับไปคำนวณเงินต้น และลูกหนี้ที่ชำระมากกว่า 150% สามารถหยุดจ่ายหนี้ได้ ว่า นี่เป็นเรื่องนโยบายแก้ไขปัญหาหนี้สินโดยรวมของรัฐบาลนี้ ทั้งหนี้ กยศ. หนี้ครู หนี้นอกระบบ และเอสเอ็มอีที่ติดมาตรา 21 เป็นเรื่องที่ตนเองไม่อยากจะพูดเรื่องเดียว แต่ในช่วงปลายเดือนนี้หรือประมาณ 2 สัปดาห์ต่อจากนี้ ตนเองจะมีแถลงข่าวใหญ่ถึงมาตรการแก้ไขหนี้ทั้งหมด ไม่ใช่เพียงแค่ กยศ. อย่างเดียว แต่จะรวมทุกภาคส่วนเท่าที่จะสามารถทำได้